ก่อนที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพาน ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า
"ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอทั้งหลาย สังขารทั้งปวงมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านจงทำกิจของตน และกิจของผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทเถิด"
มนุษย์ในปัจจุบันนี้ ไม่ค่อยได้คิดในเรื่องของความประมาทในชีวิต บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังประมาทอยู่ ซึ่งประมาทในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า เวลาขับรถแล้วเราประมาท หรือ เวลาข้ามถนนแล้วเราประมาทไม่ดูให้ดีเสียก่อน แต่ความหมายที่จะพูดถึงนี้ มันกว้างและลึกกว่านั้นครับ.
คนเราเมื่อเกิดมาแล้วมักจะประมาทว่าก็เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ง่ายๆ ใครๆเค้าก็เกิดกัน มีมนุษย์เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด เวลาตายไปแล้วก็แค่เกิดใหม่(กรณีที่เชื่อตามคติของชาวพุทธ ว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั้นมีจริง) ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย เป็นมนุษย์ไปเรื่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่า ภพภูมิทั้งหมด ไม่ได้มีเพียงภพภูมิของมนุษย์เพียงอย่างเดียว มีตั้งแต่ สัตว์นรก ไปจนถึง เทวดา หรือ พรหม แล้วท่านลองคิดดูว่าเมื่อท่านเสียชีวิตลงไป ท่านแน่ใจได้อย่างไร? ว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์.
สำหรับคนที่ต้องการเกิดเป็นมนุษย์หรือภพภูมิที่สูงกว่า อย่างแน่นอนในทุกๆชาติที่เกิด ขอเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "ผู้ไม่ประมาทในชีวิต" ก็แล้วกันครับ วิธีการง่ายๆเลยครับ "ท่านต้องรักษาศีลห้า" อย่างเคร่งครัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ก็จะถูกยกระดับขึ้นมาเป็น อุบาสก หรือ อุบาสิกา เมื่อปฏิบัติได้อย่างนี้ เราย่อมไม่ตกไปสู่ภพภูมิที่ต่ำกว่านี้อย่างแน่นอน.
*ผมใช้คำว่า "คน" และ "มนุษย์" เพราะต่างกัน คน คือ สัตว์ชนิดหนึ่ง, แต่ มนุษย์ คือ สัตว์ประเสริฐ ซึ่งสูงกว่าคน เราสามารถแบ่งแยกระหว่าง คนและมนุษย์ ด้วย "ศีล" ครับ.
ชีวิตคนเราเกิดมาแล้วในโลกนี้ มันต้องมีความหมายของมัน.. ว่าเราเกิดมาทำไม ? คงจะไม่ใช่เกิดมาแล้วเพียงแค่ตายเท่านั้นอย่างแน่นอน เรามาลองค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิตกันครับ.
No Comment to " คุณกำลังประมาทในชีวิตอยู่หรือไม่? "